26 มกราคม 2557

อาชีพรับจ้างซักรีด อาชีพทำเงินที่ไม่ควรมองข้าม


อาชีพรับจ้างซักรีด อาชีพทำเงิน อาชีพเสริมที่ไม่ควรมองข้าม 


สำหรับท่านที่ต้องการอาชีพมั่นคงที่มีรายได้ต่อเดือนเกิน 10,000 บาทต่อเดือน อาชีพรับจ้างซักรีดก็เป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ ร้านซักรีดที่มีทำเลดีมีเงินหมุนทุกวัน ข้อดีรับจ้างซักรีดของอาชีพนี้คือทำได้ตลอด ลงทุนครั้งเดียวตอนเริ่มแรกเท่านั้น (ลงทุนซื้อเครื่องซักผ้า ค่าเซ้งร้าน)







จะเริ่มต้นอาชีพนี้ได้อย่างไร

  1. อย่างแรกที่คุณต้องมีคือทำเลที่ตั้งร้าน ทำเลทองสำหรับร้านรับจ้างซักรีดคือ หอพัก ไม่ว่าจะเป็นหอพักนักศึกษา หอพักนักเรียน หอพักพนักงาน , คอนโดมิเนียม , แฟลต , อพาร์ทเม้นท์ , ตึกแถว , หมู่บ้านจัดสรร ทำเลที่กล่าวมานี้จะมีลูกค้ามาก เพราะส่วนมากจะไม่นิยมซักผ้ากันเอง ไม่มีเวลา หรือไม่สะดวกตากผ้า
  2. คุณต้องมีเงินทุน ถ้าทุนน้อยจะเช่าร้านก่อนก็ได้ แต่ต้องซื้อเครื่องซักผ้าเพื่อทุนแรง เงินลงทุนครั้งแรกประมาณ 20,000 บาท (ไม่รวมค่าร้าน) แบ่งเป็น เครื่องซักผ้าประมาณ 15,000 บาท เป็นเครื่องซักผ้าแบบถังเดี่ยว เตารีด ราคาประมาณ 800-1,000 บาท โต๊ะรีดผ้าประมาณ 300-700 บาท

รายได้

ประมาณ 10,000 บาท/เดือนขึ้นไปแล้วแต่ทำเลที่ตั้งร้าน

อุปกรณ์อื่นที่จำเป็นสำหรับอาชีพ

  1. กะละมังซักผ้า (สำหรับผ้าที่ซักด้วยเครื่องไม่ได้)
  2. ผงซักฟอก
  3. น้ำยาปรับผ้านุ่ม
  4. น้ำยาขจัดคราบไขมัน และคราบเปื้อนอื่น ๆ
  5. น้ำยารีดผ้าเรียบ
  6. น้ำยาอัดกลีบ
  7. ไม้แขวนเสื้อ
  8. ราวตากผ้า

รับจ้างซักรีดแหล่งจำหน่ายอุปกรณ์

ห้างสรรพสินค้าขายส่งพวกแมคโคร จะได้ของราคาถูก

ขั้นตอนประกอบอาชีพ

  1. ประชาสัมพันธ์ร้าน ไม่จำเป็นต้องติดป้ายชื่อร้าน (เพราะจะมีค่าใช้จ่ายเรื่องภาษีป้ายด้วย) ใช้เขียนป้ายเล็ก ๆ บอกว่ารับทำอะไรเท่านั้นก็พอ เมื่อลูกค้าเอาผ้ามาซักเขาจะรู้จักร้านและบอกปากต่อปากเอง ลูกค้าส่วนมากจะอยู่ในบริเวณใกล้เคียงร้าน ไม่จำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ร้านในระแวกอื่น
  2. การรับผ้ามาซักมี 2 แบบคือ รับซักเป็นเดือน กับรับซักรายชิ้น รับซักเป็นเดือน (เหมาซักทั้งเดือน) ผู้รับจ้างซักรีดต้องไปรับผ้ามาเอง โดยกำหนดเวลาเก็บผ้ามาซัก จะเป็นวันละครั้งหรือสองวันครั้งก็ได้ ส่วนรายชิ้น ส่วนมากลูกค้าจะนำมาซักที่ร้านด้วยตัวเอง
  3. การซักผ้า อย่างแรกที่ควรระวังคือชนิดของผ้าและเสื้อผ้า สำหรับผ้าบางประเภทต้องซักด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษก็ซักด้วยมือ เช่น ผ้าชีฟอง ผ้าไหม ชุดสูท เป็นต้น แยกผ้าขาวและผ้าสีให้เรียบร้อยก่อนซัก ผ้าบางชนิดก็มีข้อจำกัดอื่น ๆ อีก เช่น ห้ามใช้ผงซักฟอกที่มีคลอรีน หรือให้ซักแห้งเท่านั้น เป็นต้น ควรจะศึกษาป้ายแนะนำการดูแลรักษาที่ติดมากับเสื้อผ้าเป็นสำคัญ
ขั้นตอนการซักรีดโดยคร่าว
  1. แยกผ้าขาวและผ้าสีออกจากกัน ซักผ้าขาวก่อนแล้วซักผ้าสีทีหลัง ส่วนเนื้อผ้าก็ต้องดูเหมือนกันสำหรับเนื้อผ้าหนา ๆ สามารถใส่เครื่องซักได้ ก็ควรใส่เครื่องเผื่อประหยัดเวลา เช่น ผ้ายีนส์ ผ้าคอตตอล ผ้าใยสังเคราะห์ เป็นต้น ถ้าผ้ามีรอยเปื้อนมากควรแยกซัก และใช้น้ำยาขจัดรอยเปื้อนเพื่อทุนแรง
  2. เปิดน้ำใส่เครื่องซักผ้า ใส่ผงซักฟอก ใส่ผ้าลงไปในถังซักให้พอดีความจุเครื่องห้ามใส่เกินเพราะผ้าจะไม่สะอาดและทำให้อายุการใช้งานของเครื่องซักผ้าลดลง กดปุ่มเดินเครื่อง รอจนเครื่องซักผ้าทำงานจนครบขั้นตอน (ควรศึกษาคู่มือการใช้เครื่องซักผ้าให้เข้าใจก่อน)
  3. เมื่อปั่นแห้งผ้าแล้วนำผ้ามารีดให้เรียบ ต้องใช้อุณหภูมิให้เหมาะสมกับผ้าแต่ละชนิด สำหรับผ้าสีเข้มอย่ารีดในลักษณะถูไปถูมาเพราะจะทำให้ผ้าขึ้นเงา ให้ค่อย ๆ กดไปจนกว่าจะเรียบ หรือใช้สเปรย์รีดผ้าเรียบฉีดก่อนรีดก็ได้ ส่วนผ้าเนื้อบางให้หาผ้าวางซ้อนทับด้านบนก่อนรีด ผ้าจะได้ไม่ยู่ยี่เพราะความร้อน และทำให้รีดง่ายขึ้น เมื่อรีดเสร็จแล้วควรนำไปแขวนในทันที เพื่อทีจะรักษาทรงของเสื้อผ้า รอลูกค้ามารับ สำหรับลูกค้าที่จ้างเหมาซักเป็นเดือนเราต้องเป็นคนไปส่งผ้าเอง

ค่าบริการโดยประมาณ

  1. เสื้อผ้าทั่วไปคิดค่าบริการชิ้นละ 10-15 บาท
  2. ชุทสูท ชุดเครื่องแบบ ชุดราตรี 80-100 บาท / ชุด
  3. ผ้าห่ม ผ้านวม ผืนละ 50 บาท
  4. ราคารับเหมาซักเป็นเดือน ประมาณ 700-1000 บาท กำจัดผ้าไม่เกิน 60 -70 ชิ้นต่อเดือน















































0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น